กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยการจัดกิจกรรมรณรงค์ดื่มนมเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะนมจืด สะท้อนถึงผลการสำรวจอนามัยโพลล่าสุด เป็นที่น่ายินดี พบว่า คนไทยทุกวัยดื่มนมจืดมากขึ้น เพราะเห็นถึงความสำคัญของคุณค่าโภชนาการที่ได้รับเสริมสร้างการเจริญ

          แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากผลสำรวจอนามัยโพล เรื่อง “นมหลากรส คนหลากหลาย” โดยสำรวจสถานการณ์พฤติกรรมและความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับพฤติกรรมการดื่มนม ตลอดเดือนมิถุนายน 2568  มีผู้ตอบ จำนวน 450 คน พบเรื่องที่น่ายินดี คนไทยนิยมดื่มนมจืดมากที่สุด คิดเป็น  ร้อยละ 83.33 สูงขึ้นเมื่อเทียบกับการสำรวจปี 2567 พบคนไทยดื่มนมรสจืด ร้อยละ 58.57 รองลงมาคือ รสหวาน ร้อยละ 20.22 และรสช็อกโกแลต ร้อยละ 19.11 ทั้งนี้ เหตุผลหลักในการเลือกดื่มนมของผู้ตอบแบบสำรวจ 3 อันดับแรก ได้แก่ คุณค่าทางโภชนาการ ร้อยละ 78.00 สูงขึ้นเมื่อเทียบกับการสำรวจปี 2567 คำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการ ร้อยละ 54.79  รองลงมา คือ รสชาติของนม ร้อยละ 38.22 และการคำนึงถึงปริมาณพลังงาน ไขมัน และน้ำตาล ร้อยละ 37.11 ตามลำดับ

           นอกจากนี้จากผลการสำรวจพบว่าส่วนใหญ่ดื่มนม 1 – 2 วันต่อสัปดาห์ ร้อยละ 39.11 รองลงมาคือ ดื่มนมเป็นประจำทุกวัน ร้อยละ 31.56 และดื่มนม 3–4 วันต่อสัปดาห์ ร้อยละ 20.89 ตามลำดับ ทั้งนี้พบว่าปริมาณการดื่มนมต่อวัน ส่วนใหญ่ดื่มนมวันละ 1 แก้ว ร้อยละ 69.33 ลดลงเมื่อเทียบกับการสำรวจปี 2567 ดื่มนมวันละ 1 แก้ว ร้อยละ 82.37  รองลงมาคือวันละ 2 แก้ว ร้อยละ 27.33 สูงขึ้นเมื่อเทียบกับการสำรวจปี 2567 ดื่มนม 2 แก้ว ร้อยละ 11.95 และมากกว่า 3 แก้วต่อวัน ร้อยละ 1.78 อย่างไรก็ตาม พบมีผู้ที่ไม่ดื่มนมเลย ร้อยละ 4.44  นิยมดื่มนมพร้อมมื้อเช้า ร้อยละ 37.78 และดื่มก่อนนอน ร้อยละ 28.44

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ กล่าวต่อไปว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่คนไทยนิยมดื่มนมรสจืดมากที่สุด และเลือกเพราะคำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุด โดยที่ผ่านมากรมอนามัยจัดกิจกรรมรณรงค์ดื่มนมเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะนมรสจืด และขอความร่วมมือไปยัง Modern trade ในการจัดโปรโมชัน เพื่อส่งเสริมการดื่มนมในเดือนมิถุนายนทุกปี เพื่อให้คนไทยเข้าถึงนมมากขึ้น  นมเป็นแหล่งโปรตีน แคลเซียม และวิตามินบี 2 ที่ดีอยู่แล้ว นมรสจืดเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพมากกว่านมรสหวานหรือนมที่มีการปรุงแต่งอื่นๆ ยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคอ้วน โรคเบาหวาน รวมถึงลดพฤติกรรมการติดรสหวานที่ส่งผลให้เสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอื่น ๆ ในอนาคต เนื่องจากนมรสจืดไม่มีการเติมน้ำตาลเพิ่มเหมือนในนมรสหวาน รสช็อกโกแลต และรสชาติอื่น ๆ  

          ด้าน ดร.แพทย์หญิงสายพิณ โชติวิเชียร ผู้อำนวยการสำนักโภชนาการ กล่าวว่า จากการสำรวจพบคนไทยส่วนใหญ่ยังดื่มนม 1-2 วันต่อสัปดาห์ และดื่มนมเพียงวันละ 1 แก้ว เพื่อสุขภาพที่ดี ประชาชนทุกกลุ่มวัย ควรดื่มนมจืด 2 แก้วทุกวัน โดยเฉพาะเด็กอายุ 1-18 ปี ร่วมกับกินอาหารครบ 5 หมู่ อย่างหลากหลายในปริมาณสัดส่วนที่เหมาะสม ออกกำลังกายรับแสงแดดทุกวันเพื่อให้ได้รับวิตามินดี ช่วยส่งเสริมการดูดซึมแคลเซียมจากนม และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ผู้ปกครองควรเตรียมนมจืดเก็บติดตู้เย็นที่บ้าน ส่งเสริมให้ครอบครัวดื่มนมจืดวันละ 2 แก้ว เพื่อให้เด็กไทยสูงดีสมวัย คนในครอบครัวกระดูกและฟันแข็งแรง ป้องกันภาวะกระดูกพรุน

***

กรมอนามัย / 18 กรกฎาคม 2568



   
   


View 27    18/07/2568   ข่าวในรั้ว สธ.    กรมอนามัย