ประเทศไทยขานรับปฏิญญากรุงเทพฯ ขยายการเข้าถึงบริการสุขภาพช่องปากเชิงรุก

ประเทศไทย โดย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ประกาศ ‘ปฏิญญากรุงเทพ’ ฉันทามติสุขภาพช่องปากครั้งแรกในโลก จากความร่วมมือกว่า 194 ประเทศ พร้อมแถลงผลลัพธ์การจัดประชุมสุขภาพช่องปาก มีเป้าหมาย 3 ด้าน โดยมุ่งเน้นให้ประชากรโลก มีสิทธิในการรับบริการด้านสุขภาพช่องปากที่จำเป็น

          วันนี้ (29 พฤศจิกายน 2567) แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ประเทศไทย โดย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดประชุมสุขภาพช่องปากโลก (WHO Global Oral Health Meeting) ระหว่างวันที่ 26-29 พฤศจิกายน 2567 ณ โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร  โดยมีการหารือประชุมร่วมกันจนเกิดฉันทามติระหว่างองค์การอนามัยโลก และประเทศสมาชิก 194 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย โดยมุ่งมั่นแสดงเจตจำนงร่วมกัน ในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพช่องปากให้เกิดความเสมอภาค ตลอดจนเกิด “ปฏิญญากรุงเทพ ฯ (Bangkok Declaration)” ขึ้น สาระสำคัญ คือ การยืนยันมติด้านสุขภาพช่องปาก ในการประชุมสมัชชาอนามัยโลก 2021 และขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการด้านสุขภาพช่องปากโลก 2023-2030 ที่มีหลักการสำคัญ คือ การเสริมสร้างนโยบายด้านสุขภาพช่องปาก ระบบสุขภาพและการให้บริการ ในบริบทของการดูแลสุขภาพปฐมภูมิและหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ตลอดจนการผนวกสุขภาพช่องปากให้เป็นส่วนหนึ่งของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เพื่อผลักดันให้สุขภาพช่องปากเป็นวาระสำคัญระดับโลกอย่างมีส่วนร่วม ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม     สนับสนุนให้ประชากรโลกเข้าถึงบริการทันตกรรมได้อย่างทั่วถึง และเท่าเทียม นำไปสู่การมีสุขภาพช่องปากที่ดีส่งผลต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี การประชุมนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าด้านสุขภาพช่องปากภายในปี 2573 และเกิด Roadmap ของแต่ละประเทศ นำไปสู่การบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ 3 ด้าน ดังนี้ 1) ร้อยละ 80 ของประชากรโลก มีสิทธิในการรับบริการด้านสุขภาพช่องปากที่จำเป็น 2) อุบัติการณ์ของโรคและสภาวะในช่องปากที่สำคัญทั่วโลกรวมกันตลอดช่วงชีวิต มีแนวโน้มลดลง ร้อยละ 10  3) ร้อยละ 50 ของประเทศสมาชิกมีมาตรการที่มุ่งลดการบริโภคน้ำตาล

          “ทั้งนี้ หลังจากการประชุมสุขภาพช่องปากโลกครั้งนี้ ประเทศไทยจะนำแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการด้านสุขภาพช่องปากโลก พ.ศ. 2566 –2573 (ปี 2023-2030) มาขับเคลื่อนอย่างจริงจัง โดยประการแรกที่จะดำเนินการคือ จัดตั้งคณะกรรมการแห่งชาติซึ่งประกอบด้วยภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ทั้งด้านสาธารณสุข นอกภาคสาธารณสุข โดยเฉพาะภาคประชาสังคม และภาคประชาชน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการร่วมกันจัดการปัจจัยกำหนดสุขภาพเชิงพาณิชย์ เช่น น้ำตาล บุหรี่  ซึ่งส่งผลคุกคามต่อสุขภาพช่องปากและโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เร่งสร้างให้ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพช่องปากเพื่อป้องกันตนเองจากการเกิดโรคในช่องปาก และสามารถจัดการปัญหาสุขภาพช่องปากได้ รวมทั้ง การจัดระบบบริการสุขภาพช่องปากให้เอื้อต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ ชุมชนแออัดในพื้นที่เขตเมือง  ผู้ด้อยโอกาสในสังคม ให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพ” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว

 

Press release

Thailand Embraces the Bangkok Declaration to Expand Access to Proactive Oral Health Services

Bangkok, November 29, 2024 – The Department of Health, Ministry of Public Health, Thailand, proudly announced the Bangkok Declaration, the world’s first global consensus on oral health. This declaration stems from the WHO Global Oral Health Meeting, the first-ever global oral health meeting, held in Bangkok from November 26–29, 2024, which brought together representatives from 194 WHO member states, UN agencies, international organizations, civil society organizations and other stakeholders to address key strategies for advancing oral health worldwide.

A Global Collaboration for Oral Health Equity

Dr. Amporn Benjapolpitak, Director-General of the Department of Health, emphasized that the meeting was a historic platform for collaboration among nations to drive equitable and accessible oral healthcare services. The Bangkok Declaration reaffirmed the 2021 World Health Assembly’s resolution on oral health and laid out a roadmap under the Global Oral Health Action Plan 2023–2030.

Key objectives of the declaration include:

• Strengthening oral health policies and systems in alignment with primary healthcare and Universal Health Coverage (UHC).
• Integrating oral health into the global agenda for the prevention and control of non-communicable diseases (NCDs).
• Promoting collaboration among governments, private sectors, and civil society to ensure universal access to essential oral health services.

Overarching Global Targets

The meeting ensured the roadmap to three key global targets to achieve by 2030:

1. Ensuring 80% of the global population is entitled to essential oral health care services.
2. Reducing the combined global prevalence of the main oral diseases and conditions by 10% over the life course.
3. Encouraging 50% of member states to implement strategies to reduce sugar consumption.

Thailand's Commitment to Driving Global Oral Health

Dr. Amporn highlighted Thailand’s role as a leader in oral health innovation and its dedication to implementing the Global Oral Health Action Plan.

"Following this meeting, Thailand will intensify efforts to implement the Global Oral Health Action Plan 2023–2030. Our first step is establishing a national committee with representatives from health, non-health sectors, civil society, and communities. This committee will tackle commercial determinants of health, such as sugar and tobacco, which pose significant threats to oral health and NCDs.

We will also work to enhance oral health literacy, empowering individuals to prevent and manage oral health problems independently. Special attention will be given to improving access to quality oral health services for vulnerable groups, including children, the elderly, urban slum communities, and disadvantaged populations, ensuring that care is efficient, accessible, and equitable."

The Bangkok Declaration marks a transformative step in global oral health, fostering collaboration and innovation to create a sustainable and inclusive oral health system for all.

***

 กรมอนามัย / 29 พฤศจิกายน 2567