ไทยเร่งป้องกันเอดส์หวังผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง จัดทำแผนเอดส์ชาติปี2550-2554 เน้น 4 ยุทธศาสตร์ดูแลผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วย และครอบครัว ยกระดับมาตรฐานชีวิตให้ดีขึ้น พร้อมประกาศความสำเร็จการแก้ปัญหาโรคเอดส์ ทั่วโลกยอมรับและยกเก้าอี้ประธานบอร์ดโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ ให้ไทยนั่ง เป็นประเทศแรกในเอเชีย บ่ายวันนี้(12 มกราคม 2549)นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2550 โดยมีนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมประชุม ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์มงคล กล่าวภายหลังการประชุมว่า จากการประเมินสถานการณ์โรคเอดส์ของประเทศไทยในปี 2549 ยังพบปัญหาที่สำคัญคือ เยาวชนมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์มากขึ้น เช่น การมีเพศสัมพันธ์ก่อน วัยอันควรโดยไม่มีการป้องกัน โดยพบว่าอัตราการติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นหญิง แม่บ้านที่ติดเชื้อจากสามี ร้อยละ 36 และพบในกลุ่มชายรักชายร้อยละ 24 คณะผู้เชี่ยวชาญด้านเอดส์ของไทยคาดการณ์ว่าในปี 2550 นี้ จะมีผู้ใหญ่ติดเชื้อเอดส์สะสมประมาณ 1 ล้าน 1 แสนกว่าราย ยังมีชีวิตอยู่ ประมาณร้อยละ 50 คาดว่าจะมีผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อเอดส์รายใหม่จำนวน 13,936 ราย อย่างไรก็ตามสำนักระบาดวิทยารายงานว่าการติดเชื้อเอดส์รายใหม่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยตรวจพบว่าในกลุ่มหญิงบริการทางเพศมีการติดเชื้อรายใหม่เพิ่มจาก 23 ต่อ 1,000 ราย ในปี 2548 เป็น 35 ต่อ 1,000 รายในปี 2549 และยังพบว่ามีการเพิ่มของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มวัยรุ่นเพิ่มมากขึ้น การประชุมในวันนี้ ที่ประชุมได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์บูรณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ พ.ศ.2550 – 2554 โดยมุ่งเน้น 4 ยุทธศาสตร์หลักได้แก่ 1.ให้จังหวัดและท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการในการดูแล ป้องกัน แก้ไขปัญหาเอดส์ในพื้นที่มากขึ้น 2.การบูรณาระบบการป้องกัน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงสำคัญได้แก่ วัยรุ่น กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มชายรักชาย ดูแล รักษา และลดผลกระทบจากโรคเอดส์ ตามกลุ่มประชากรเป้าหมาย 3.การคุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ และ4.การศึกษาวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้เพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ให้ได้ร้อยละ 50 จากที่คาดประมาณไว้ รวมถึงให้ผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์เข้าถึงการรักษาด้วยยาต้านไวรัสอย่างครอบคลุมทั่วถึง นอกจากนี้ยังกำหนดเป้าหมายให้ผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยเอดส์ และครอบครัว สามารถเข้าถึงบริการทางสังคมได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผลสำเร็จในการแก้ไขปัญหาเอดส์ของประเทศไทยที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ เป็นที่ชื่นชมและยกย่องในเวทีโลกมาก และได้รับการเสนอชื่อเข้าเป็นสมาชิกของคณะกรรมการบริหารนโยบายในการแก้ไขปัญหาเอดส์ระดับโลก (Programme Coordinating Board :PCB) ขององค์กรเอดส์แห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอดส์ (UNAIDS) ซึ่งมีทั้งหมด 22 ประเทศและส่วนใหญ่เป็นประเทศในแถบยุโรป อเมริกา มีวาระ 3 ปี และคณะกรรมการบริหารมีมติเลือกไทยให้ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการ คนต่อไปจากประเทศสวีเดน จะเริ่มตั้งแต่มิถุนายน พ.ศ. 2551เป็นต้นไป นับเป็นครั้งแรกของประเทศในแถบเอเชียที่ได้ทำหน้าที่ประธานในการประชุมเพื่อพิจารณาตัดสินเชิงนโยบายด้านเอดส์ในระดับโลก นอกจากนี้ ประเทศไทยจะเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนสมัยพิเศษครั้งที่ 12 ที่เมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งกำหนดวันที่ 13 มกราคม 2550 นี้ ในการประชุมครั้งนี้ได้กำหนดให้มีการประชุมความร่วมมือเรื่องโรคเอดส์ในภูมิภาคอาเซียน จะมีการลงนามรับรองปฏิญญาความร่วมมือเรื่องโรคเอดส์ และแผนงานของอาเซียนว่าด้วยเอชไอวีและโรคเอดส์ในพ.ศ. 2549 - 2553 ซึ่งมี 10 ด้าน ครอบคลุมทั้งในระดับนโยบาย การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสังคมและผู้ติดเชื้อ การป้องกันการติดเชื้อในกลุ่มหญิงวัยเจริญพันธุ์ กลุ่มเคลื่อนย้ายอพยพ และอื่นๆ รวมทั้งการส่งเสริมการเข้าถึงยาต้านไวรัสของผู้ติดเชื้อโรคเอดส์ สำหรับโครงการบริการยาต้านไวรัสแก่ผู้ป่วยเอดส์ในปี 2549 โครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้จัดงบประมาณ 2,700 ล้านเศษ จัดซื้อยาต้านไวรัสให้ผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ โดยมีผู้ติดเชื้อเข้าถึงยาต้านสะสมตั้งแต่พ.ศ.2545 รวม 105,736 ราย ในจำนวนนี้กินยาพื้นฐานต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันจำนวน 84,162 ราย และกินยาต้านไวรัสสูตรดื้อยา 2,148 ราย และในปี 2550 นี้ตั้งเป้าเพิ่มความครอบคลุมผู้ป่วยกว่า 100,000 ราย โดยคาดจะมีผู้ป่วยกินยาต้านไวรัสสูตรดื้อยาประมาณ 8,000 ราย มกราคม3/2-3 ..................................... 12 มกราคม 2550


   
   


View 8       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ