กระทรวงสาธารณสุข เผยผลสำเร็จการให้ยาต้านไวรัสหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอดส์ ในรอบ 6 ปีมานี้ สามารถลดการแพร่เชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกลงได้ร้อยละ 8 หญิงหลังคลอดได้รับยาต้านไวรัสต่อร้อยละ 99 เร่งขยายผลดูแลทั้งครอบครัวที่ติดเชื้อทั้งคนไทยด้อยโอกาสและต่างด้าว นำร่องแผน 5 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2547-2551 หวังผลลดเด็กกำพร้าลงร้อยละ 50
แพทย์หญิงศิริพร กัญชนะ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาโรคเอดส์ส่งผลกระทบต่อกลุ่มแม่บ้านมาก จากข้อมูลการคลอดทั่วประเทศพบว่า แต่ละปีมีหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อเอชไอวี ประมาณ 8,000-9,000 ราย และมีการถ่ายทอดเชื้อสู่ลูกปีละประมาณ 2,000-2,500 ราย หรือร้อยละ 26 กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการป้องกันการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวี ระหว่างสามี ภรรยา และลูกมาอย่างต่อเนื่อง โดยให้บริการปรึกษาและตรวจเลือดเอชไอวีด้วยความสมัครใจ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 ให้ยาต้านไวรัสแก่หญิงตั้งครรภ์ในระยะตั้งครรภ์และในระยะคลอด และให้ยาต้านไวรัสแก่ทารก ครอบคลุมโรงพยาบาลทั่วประเทศตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543
แพทย์หญิงศิริพร กล่าวต่อไปว่า ผลการดำเนินงานประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง ทำให้อัตราการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกลดลงเหลือเพียงร้อยละ 8 ใน พ.ศ.2549 โดยหญิงตั้งครรภ์ที่มาคลอดได้รับการตรวจเลือดร้อยละ 99.5 และพบติดเชื้อเอชไอวีร้อยละ 0.9 โดยหญิงที่ติดเชื้อเอชไอวี ได้รับยาต้านไวรัสขณะตั้งครรภ์และขณะคลอดร้อยละ 89.7 ส่วนทารกที่เกิดจากแม่ติดเชื้อเอชไอวี ได้รับยาต้านไวรัสหลังคลอดร้อยละ 98.7 และได้รับนมผสมร้อยละ 90 ทั้งนี้ภายใน พ.ศ.2550 กระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าจะลดอัตราการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ให้ต่ำกว่าร้อยละ 0.90 ในทุกจังหวัด และให้การดูแลเด็กกำพร้าที่พ่อแม่เสียชีวิตจากโรคเอดส์จำนวน 16,300 ราย ใน พ.ศ. 2550
ทั้งนี้ ในการดูแลรักษาหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอชไอวีอย่างครบวงจร กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำโครงการดูแลหญิงหลังคลอดพร้อมทั้งครอบครัวที่ติดเชื้อเอชไอวี ทั้งคนไทยด้อยโอกาสและกลุ่มแรงงานต่างด้าว กำหนดดำเนินการ 5 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2547-2551 เพื่อยืดอายุพ่อแม่ที่ติดเชื้อให้มีชีวิตที่ยืนยาวอย่างน้อย 5 ปี เพื่อให้สามารถเลี้ยงดูลูกในช่วง 5 ปีแรก ซึ่งเป็นช่วงที่สำคัญต่อการพัฒนาร่างกายและจิตใจของเด็กได้ อีกทั้งลดปัญหาเด็กกำพร้าในสังคมไทย ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดลงได้ประมาณร้อยละ 50
แพทย์หญิงศิริพร กล่าวต่อว่า จากการประเมินผลในช่วง 2 ปีแรก จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2549 มีหญิงหลังคลอดที่ติดเชื้อเอชไอวี ได้รับยาต้านไวรัสเอดส์แล้ว 5,017 คน สามีของหญิงหลังคลอดที่ติดเชื้อเอชไอวี ได้รับยาต้านไวรัสเอดส์ 2,600 คน ลูกของหญิงหลังคลอดที่ติดเชื้อเอชไอวี ได้รับยาต้านไวรัสเอดส์ 764 คน และแม่ได้รับการคุมกำเนิด 7,640 คน อย่างไรก็ตาม จำนวนหญิงที่ติดเชื้อและสามี/คู่ที่เข้าโครงการยังมีไม่มากพอ เนื่องจากกลัวการรังเกียจจากสังคม และไม่อยากเปิดเผยตัว จึงต้องจัดให้บริการอย่างมีคุณภาพ โดยเฉพาะการพัฒนาศักยภาพบุคลากรที่ทำงานด้านเอดส์ ตลอดจนการสนับสนุนของท้องถิ่นด้วย เพื่อลดการรังเกียจและการเลือกปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี เพื่อให้กลุ่มผู้ติดเชื้อสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้
สำหรับการดำเนินการใน พ.ศ. 2549-2551 มีแผนดำเนินการปีละ 4 จังหวัด โดยในปี พ.ศ. 2549 ได้แก่ สมุทรสาคร ตราด สระแก้ว ศรีสะเกษ ปี พ.ศ. 2550 เพิ่ม เชียงราย ตาก ระยอง ระนอง และปี พ.ศ. 2551 เพิ่ม เชียงใหม่ ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี และจันทบุรี ธันวาคม 7/4 ********31 ธันวาคม 2549
View 11
31/12/2549
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ