กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบผู้ประกอบการเครื่องสำอางไทย สร้างเครือข่ายความร่วมมือ สนับสนุนการพัฒนาประเทศ ยกระดับวงการอุตสาหกรรมเครื่องสำอางให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล
- กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
- 51 View
- อ่านต่อ
กระทรวงสาธารณสุขรณรงค์กินเจ อิ่มบุญ ได้สุขภาพ น้อมถวายรำลึกเนื่องในวันนวมินทรมหาราช เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศล พร้อมทั้งสร้างความตระหนักให้ประชาชนล้างมือด้วยน้ำและสบู่ เนื่องในวันล้างมือโลก (Global Hand Washing Day)
วันนี้ (12 ตุลาคม 2566) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการรณรงค์เทศกาลกินเจ ประจำปี 2566 “กินเจ อิ่มบุญ ได้สุขภาพ น้อมถวายรำลึกเนื่องในวันนวมินทรมหาราช” โดยมี นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่ายการดูแลผู้สูงอายุ เข้าร่วมงาน ณ บริเวณโถงอาคาร 3 ชั้น 1 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดว่า เทศกาลกินเจปีนี้ ตรงกับวันที่ 15 - 23 ตุลาคม 2566 กระทรวงสาธารณสุขจึงได้จัดงานการรณรงค์เทศกาลกินเจ ประจำปี พ.ศ. 2566 “กินเจ อิ่มบุญ ได้สุขภาพ น้อมถวายรำลึกเนื่องในวันนวมินทรมหาราช” ขึ้น เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ เนื่องในวันที่ 13 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันนวมินทรมหาราช พร้อมทั้งสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้กินอาหารเจที่สะอาด ปลอดภัย และสุขภาพดี อีกทั้ง วันที่ 15 ตุลาคม ของทุกปี สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้กำหนดให้เป็นวันล้างมือโลก (Global Hand Washing Day) เพื่อเป็นการรณรงค์สร้างความตระหนักให้ประชากรทั่วโลกล้างมือด้วยน้ำและสบู่ โดยในปี 2566 มีคำขวัญว่า “มือสะอาด อยู่ใกล้ แค่เอื้อม : Clean hand are within reach” จึงขอความร่วมมือให้ภาครัฐและภาคเอกชนทั่วประเทศจัดกิจกรรมรณรงค์ การล้างมือ เพื่อให้ประชาชนมีสุขอนามัยที่ดี ด้วยการหมั่นล้างมือบ่อยๆ ให้ถูกต้อง 7 ขั้นตอน ก่อนเตรียมปรุงประกอบและกินอาหาร
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายในการดูแลประชาชนให้มีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจมีความมั่นคงทางสุขภาพ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนในช่วงเทศกาลกินเจ และสร้างความตระหนักด้านสุขอนามัยแก่ผู้ประกอบกิจการอาหาร ในทุกขั้นตอนของการผลิตจนถึงผู้บริโภค จึงขอให้ผู้ประกอบกิจการให้ความสำคัญด้านความสะอาด ปลอดภัย เลือกซื้ออาหารเจ ก่อนเลือกซื้อไปบริโภค ควรคำนึงถึงคุณค่า ราคา ความสะอาด ความปลอดภัยวันหมดอายุ และขอความร่วมมือร้านค้า งดการใช้โฟมบรรจุอาหารเปลี่ยนเป็นใช้ภาชนะจากธรรมชาติที่ย่อยสลายได้แทน พร้อมเน้นย้ำผู้บริโภค คุมเข้มพฤติกรรมกินอาหารปรุงสุกใหม่ใช้ช้อนส่วนตัว และหมั่นล้างมือ เพื่อเป็นเกราะป้องกันโรค
ด้านแพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมอนามัยแนะนำหลัก 5 ล. ในช่วงเทศกาลกินเจ เพื่อสุขภาพดังนี้ 1) ล : เลือกวัตถุดิบ ในการปรุงประกอบอาหารที่สะอาด ปลอดภัย และเลือกกินอาหารจากร้านอาหารที่สะอาด ผ่านมาตรฐานด้านสุขาภิบาลอาหารหรือ Clean Food Good Taste ซื้อผักสด ผลไม้ โปรตีนเกษตรจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ เครื่องปรุงรสต้องมีเครื่องหมาย อย. เครื่องหมาย มอก. 2) ล : ล้างผัก ผลไม้ให้สะอาด ก่อนกินหรือก่อนนำผักและผลไม้มาปรุงอาหาร ต้องล้างให้สะอาดทุกครั้งด้วย 3 วิธี ดังนี้ วิธีที่ 1) การล้างด้วยน้ำไหล สามารถลดสารพิษได้ ร้อยละ 25-65 ผักและผลไม้คงความสด วิธีที่ 2) การล้างด้วยผงฟู หรือเบคกิ้งโซดาช่วยลดสารพิษได้ถึง ร้อยละ 90-95 และ วิธีที่ 3) การล้างด้วยน้ำส้มสายชู ช่วยลดสารพิษได้ ร้อยละ 60-84 และยังสามารถล้างไข่พยาธิได้
“3) ล : ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ มือของผู้ปรุง ผู้เสิร์ฟ ควรหมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำ 7 ขั้นตอน เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อ ควรสวมถุงมือหรือใช้อุปกรณ์หยิบจับอาหารในระหว่างการเตรียมปรุงอาหาร เน้นการปรุงให้สุก ป้องกันการปนเปื้อนระหว่างอาหารดิบและอาหารสุกผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น มีด เขียงที่สำคัญปกปิดอาหารเพื่อป้องกันฝุ่นละอองหรือแมลงที่อาจไต่ตอม 4) ล : เลี่ยงอาหารที่มีแป้งและไขมันมาก เพราะอาหารเจส่วนใหญ่ประกอบด้วยแป้ง ธัญพืช ถั่ว งา เต้าหู้ อาจทำให้ขาดโปรตีนและธาตุเหล็ก จึงควรเลือกพืชที่ทดแทนโปรตีน ได้แก่ ถั่วเมล็ดแห้ง โปรตีนเกษตร เต้าหู้ และผักใบเขียวเข้ม ซึ่งมีธาตุเหล็กสูง นอกจากนี้ ควรเลือกผัก ผลไม้ให้หลายสี เพื่อให้ได้วิตามินและแร่ธาตุ และ 5) ล : ลด หวาน มัน เค็ม การปรุงอาหารเจที่ดี ไม่ควรหวานจัดเค็มจัด มันจัด ควรปรุงอาหารเจด้วยการต้ม นึ่ง เน้นกินอาหารครบ 5 หมู่ ผัก ผลไม้ให้หลากหลาย ให้ได้บุญได้กุศลจากการละเว้นเนื้อสัตว์รวมทั้งสร้างสุขภาพที่ดี” แพทย์หญิงอัจฉรา กล่าว
***
กรมอนามัย / 12 ตุลาคม 2566