กรมอนามัย จัดทีมลงพื้นที่อีสาน แนะชาวบ้านประสบภัยน้ำท่วม เร่งฟื้นฟู ‘รื้อ - ล้าง’ หลังน้ำลด


        กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดทีมอนามัยสิ่งแวดล้อมลงพื้นที่น้ำท่วม จังหวัดอุบลราชธานี แนะนำประชาชนที่ประสบภัยให้มีความเข้าใจในการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมหลังน้ำลด ด้วยการทำความสะอาดบ้าน ลดปัญหาเชื้อราสะสม หวั่นส่งผลกระทบต่อสุขภาพ พร้อมซ่อมแซมส้วมที่ชำรุดเสียหาย และกำจัดแหล่งสะสมของยุง หนู แมลงสาบ   ที่เป็นพาหะนำโรค

           แพทย์หญิงพรรณพิมล  วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า กรมอนามัยได้ส่งทีมนักวิชาการลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างรุนแรง เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนในการปฏิบัติตนและจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมภายหลังน้ำลด ซึ่งเป็นความห่วงใยของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (ดร.สาธิต  ปิตุเตชะ) โดยเฉพาะพื้นที่ที่สถานการณ์น้ำท่วมกำลังกลับคืนสู่สภาวะปกติ ประชาชนควรเร่งทำความสะอาดบ้านเรือน และสถานที่สาธารณะต่าง ๆ รวมถึงสถานที่ผลิตและจำหน่ายอาหาร อาทิ ตลาดสด ร้านอาหาร มินิมาร์ท ที่ได้รับผลกระทบ เพราะในช่วงน้ำท่วมจะพัดพาสิ่งสกปรกมาจากทุกสารทิศ ทั้งโคลนตม ขยะ วัสดุ สิ่งของต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดการหมักหมม อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการระบาดของโรคได้ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของประชาชน จึงต้องมีการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและที่พักอาศัยด้วยการรื้อและล้างให้สะอาดปลอดภัยตามหลักสุขาภิบาล เพราะหากปล่อยไว้นานจะกลายเป็นแหล่งสะสมและแพร่กระจายของเชื้อโรค โดยเฉพาะเชื้อราที่พบได้หลังน้ำลดตามบริเวณพื้น ฝาผนัง วอลล์เปเปอร์ เฟอร์นิเจอร์ ที่นอน หมอน พรม รวมถึงตู้แช่อาหาร ตู้เย็น จำเป็นต้องได้รับการรื้อและล้างทำความสะอาดอย่างเร่งด่วน ส่วนตู้ไม้ที่ชำรุดเสียหายไม่สามารถใช้งานได้อีก ควรรวบรวมไว้ในแหล่งเดียวกันเพื่อรอการกำจัดจากหน่วยงานราชการต่อไป

          แพทย์หญิงพรรณพิมล  กล่าวต่อไปว่า ก่อนเข้าไปในบ้านต้องสำรวจตรวจสอบความเสียหายและมั่นใจว่าโครงสร้างของบ้านมีความมั่นคงแข็งแรง เมื่อเข้าไปแล้วให้เปิดประตู หน้าต่าง เพื่อให้อากาศถ่ายเทและลดกลิ่นเหม็นอับ ห้ามเปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศขณะทำความสะอาดบ้านหรือขณะกำจัดเชื้อรา เพราะจะทำให้สปอร์เชื้อรา ฟุ้งกระจาย นอกจากนี้ควรทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในเครื่องใช้ เครื่องเรือน เครื่องนอน และเฟอร์นิเจอร์ เช่น ฟูกที่นอน หมอน พรม เป็นประจำ ด้วยการนำไปตากแดด ส่วนวอลล์เปเปอร์หรือฉนวนกันความร้อนที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก ต้องนำไปทิ้งในถุงที่ปิดมิดชิดโดยทันที เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของเชื้อรา  

          “ทั้งนี้ ก่อนการทำความสะอาดและกำจัดเชื้อราในบ้าน ต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันร่างกาย สวมหน้ากาก ถุงมือยางและรองเท้าบูททุกครั้ง ซึ่งการจัดการเชื้อราในบ้าน ทำได้ 3 ขั้นตอน คือ 1) พื้นผิววัสดุที่พบเชื้อราให้ใช้กระดาษทิชชู แผ่นหนาและขนาดใหญ่ หรือกระดาษหนังสือพิมพ์พรมน้ำให้เปียกเล็กน้อย เช็ดพื้นผิวไปในทางเดียว แล้วนำกระดาษทิชชูหรือกระดาษหนังสือพิมพ์ดังกล่าว ทิ้งลงในถังขยะที่ปิดมิดชิด  2) ใช้กระดาษทิชชูแผ่นหนาและขนาดใหญ่ หรือกระดาษหนังสือพิมพ์ชุบน้ำผสมสบู่หรือน้ำยาล้างจาน เช็ดซ้ำในจุดที่มีเชื้อราอีกครั้ง และ 3) ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อรา เช่น น้ำส้มสายชู 5–7 เปอร์เซ็นต์ หรือแอลกอฮอล์ความเข้มข้น 60-90 เปอร์เซ็นต์ เช็ดทำความสะอาด เพื่อเป็นการทำลายเชื้อในขั้นตอนสุดท้าย โดยผู้ทำความสะอาดต้องหยุดพักสูดอากาศบริสุทธิ์ทุก 1–2 ชั่วโมง และอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดหลังจากการล้างบ้านและกำจัดเชื้อรา เพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยดี” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด

   ********************************************

ศูนย์สื่อสารสาธารณะ / 19 กันยายน 2562


จากหน่วยงาน : กลุ่มภารกิจด้านวิเคราะห์และประมวลข่าวสาร สำนักสารนิเทศ เปิดดู 559 view
วันที่ประกาศข่าว : 19 กันยายน 2562 เวลา 14:42 น.