บทความสุขภาพ

พิมพ์

ภัยเงียบพฤติกรรม “นั่งนาน” เสี่ยงโรค


    จากสถานการณ์ COVID-19 ทำให้ต้องงดการรวมกลุ่มกัน ต้องทำงานที่บ้าน เกิดพฤติกรรมการเนือยนิ่ง       นั่งนานเกินควร ประกอบกับเน้นการประชุมทางไกล เพื่องดการเดินทาง เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยหนึ่งที่เพิ่มกิจกรรมให้มีการนั่งใช้เวลานาน ๆ จนเคยชินติดเป็นนิสัยกลายเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ มากมาย

การประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน 24 ชั่วโมงเราใช้การนั่งมากที่สุดก็ว่าได้ เช่น การนั่งทำงาน นั่งดูทีวี นั่งเล่นโทรศัพท์ นั่งทานอาหาร ฯลฯ ซึ่งหลายครั้ง หลายคนก็นั่งผิดท่าทาง นั่งหลังงอ ตัวเอียง โดยจากงานวิจัยผู้หญิงมีอัตราเสี่ยงมากกว่าผู้ชาย เหตุใดการนั่งถึงสร้างอาการปวดเมื่อยให้แก่ร่างกายได้

ทั้งนี้ เพราะเมื่อเวลาที่เรา “นั่ง” ระบบย่อยอาหารจะทำงานช้าลง ก่อให้เกิดอาการต่าง ๆ  ท้องผูก จุก ท้องอืด เป็นตะคริว อวัยวะภายในเสี่ยงอันตราย เช่น หัวใจ เพราะการนั่งทำให้เลือดไหลเวียนช้าลง กล้ามเนื้อเผาผลาญไขมันได้น้อยลง คอและไหล่ตึง หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท กระดูกสันหลังคด ยาวไปถึงกล้ามเนื้ออาจเสื่อมสภาพได้ ดังนั้นหากเรานั่งทำงานในท่าทางที่ไม่เหมาะสม เช่น การนั่งเอียงตัวไปข้างใดข้างหนึ่ง นั่งไขว่ห้าง หรือนั่งโดยเท้าทั้ง 2 ข้างวางไม่ถึงพื้น นอกจากจะมีการกดทับเส้นเลือดบางส่วนไม่เท่ากัน ส่งผลให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดีแล้ว การที่นั่งเป็นเวลานานจะส่งผลให้ขาดแรงบีบอัดจากกล้ามเนื้อ เพื่อส่งเลือดกลับเข้าสู่หัวใจ ร่างกายจึงมีการไหลเวียนโลหิตไม่เพียงพอ

หากเทียบเวลาในการนั่งน้อย ๆ (เช่น นั่งน้อยกว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน) กับนั่งนาน ๆ (เช่น นั่งมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน) พบว่า ก่อให้เกิดโรค ดังนี้ โรคอ้วน โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง (stroke) โรคมะเร็งบางชนิด ซึ่งนำไปสู่อัตราการตายที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลต่อภาวะหดหู่ ซึมเศร้า     ได้อีกด้วย ดังนั้น การนั่งทำงานหรือนั่งทำกิจกรรมใด ๆ ก็ตามติดต่อกันได้นานเกิน 2 ชั่วโมงถือว่าเต็มที่แล้ว หากเกินกว่านี้ ความสามารถในการนั่งท่าที่ถูกต้องจะลดลง และส่งผลต่อข้อต่อ กระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูกสันหลังจะถูกแรงกระทำจากแรงโน้มถ่วงให้ยู่เข้าหากันเพราะไม่มีกล้ามเนื้อช่วยพยุงทำให้เกิดผลกระทบ

ดังนั้นเพื่อป้องกันอาการปวดเมื่อยเรื้อรัง และโรคที่จะตามมา นอกจากการปรับท่าทางการนั่งให้มีความสมดุลกันทั้ง 2 ข้างแล้ว การลุกขึ้นยืนบ่อย ๆ จะช่วยลดการกดทับส่วนต่าง ๆ และช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดได้ดีขึ้น ดังนั้นเราจึงควรลุกขึ้นอย่างน้อยชั่วโมงละครั้ง โดยแต่ละครั้งควรมีการยืดกล้ามเนื้อเป็นเวลา 5 นาที หรืออย่างน้อยที่สุดคือ “การลุกขึ้น” หรือ เปลี่ยนอิริยาบถทุกชั่วโมงจะช่วยลดอาการปวดส่วนต่าง ๆ และลดการเสี่ยงโรคอื่น ๆ ตามมา เพื่อการมีสุขภาพที่ดี และฝ่าวิกฤติไปได้อย่างมีความสุข

 

แหล่งข้อมูล  : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สันทณี เครือขอน คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

                            : อ.ดร.นงนภัส เจริญพานิช คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

วันที่               :    18  กุมภาพันธ์ 2564 



จากหน่วยงาน : กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดดู 1885 view
วันที่ประกาศข่าว : 18 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 09:34 น.