บทความสุขภาพ

พิมพ์

หมอเตือนพบ "มือ เท้า ปาก"สายพันธุ์รุนแรงระบาดเพิ่ม 5 เท่า


           เมื่อวันที่15ต.ค. นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า โรคมือ เท้า ปาก เกิดการระบาดในประเทศไทยมานาน ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสคอกซากีเอ6เอ16ซึ่งไม่ค่อยรุนแรงนัก เด็กจะมีกาอารไข้ สูง เป็นตุ่มน้ำใส ที่ฝ่ามือ ฝ่าท้า อย่างไรก็ตาม ยังมีเชื้อเอ็นเทอร์โรไวรัส71หรือ อีวี71ซึ่งเป็นเชื้อรุนแรงที่ทำให้เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อสมอง โดยเฉพาะตรงแกนสมอง กล้ามเนื้อหัวใจ และเสียชีวิตได้ ซึ่งอัตราตายจากเชื้ออีวี71พบว่าถ้าเป็นในเด็กอายุต่ำกว่า1ปี โอกาสเสียชีวิต1ใน100คน ถ้าต่ำกว่า3ปี โอกาสเสียชีวิตเป็น1ต่อ300คน แต่ถ้าอายุมากกว่านี้โอกาสเสียชีวิตก็น้อยลง อาจจจะเป็น1ต่อ3,000คน และโอกาสเป็นมือ เท้า ปากก็น้อยลง

       นพ.ยง กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในการระบาดของโรคมือ เท้า ปาก ในปีที่ผ่านมาจะพบว่าเกิดจากเชื้ออีวี71เพียงร้อยละ10แต่ล่าสุดตั้งแต่ต้นปี2560จนถึงตอนนี้ตรวจพบว่าในจำนวนเด็กที่ป่วยมือ เท้า ปาก เกิดจากเชื้ออีวี71ถึงร้อยละ50 หรือเพิ่มขึ้นจากเดิม5เท่า พบมากที่ภาคเหนือตอนล่าง อีสาน กทม. ซึ่งจากที่มาตรวจที่แล็ปจุฬาฯ500คน พบเป็นอีวี71แทบทั้งนั้น และเสียชีวิตอย่างน้อย3ราย จึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก เพราะเป็นเชื้ออันตรายที่เข้าสมอง กล้ามเนื้อหัวใจและเสียชีวิตได้ และเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ตนได้รับการปรึกษามาจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจ.ขอนแก่น ว่ามีเด็ก1คนเป็นมือ เท้า ปาก วันรุ่งขึ้นหอบ และเสียชีวิต เร็วมาก ลักษณะนี้เป็นการอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจ

          นพ.ยง กล่าวต่อว่า เป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก เพราะอีก2สัปดาห์เด็กก็จะเปิดเทอมแล้ว แม้ระยะนี้อัตราป่วยเริ่มลดลง แต่ตราบใดที่ยังไม่หมดหน้าฝน แล้วเข้าสู่หน้าร้อนจริงๆ ก็ยังน่าเป็นห่วง เพราะเชื้อก่อโรคนี้ไม่ว่าสายพันธุ์ใดนั้นเจริญเติบโตได้ดีช่วงหน้าฝน มีความคงทุนสูงในสิ่งแวดล้อมไม่สามารถฆ่าเชื้อได้ด้วยแอลกอฮอล์ หรือกรด สารเคมีที่จะฆ่าเชื้อนี้ได้คือ คลอรีน โซเดียมไฮโปตคอไรด์ ไฮเตอร์ น้ำยาล้างห้องน้ำ และกลุ่มฟอร์มาลีน เป็นต้น โรคนี้ ติดต่อง่ายมาก โดยเอาเชื้อที่มาทางสารคัดหลั่ง น้ำลาย อุจจาระ และเข้าสู่ร่างกายโดยการใช้มือสัมผัสของที่มีเชื้อเข้าปาก เมื่อเด็กได้รับเชื้อระฟักตัว3-5วัน อาการเริ่มต้นมีไข้ วันเดียวเท่านั้นก็จะเริ่มมีตุ่ม มีแผลในปาก บริเวณเพดานอ่อน ลิ้นไก่ รอบทอนซิล กระพุ้งแก้ม ส่วนที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เป็นตุ่มน้ำใสๆ เล็กๆ ในรายที่เป็นมากอาจจะขึ้นที่หัวเข่า ข้อศอก รอบก้น บางรายเล็บหยุดการเจริญเติบโต
 
          "สิ่งที่พ่อแม่ต้องเฝ้าระวัง1.เป็นไข้สูงไม่ลด2.ตาลอย ซึม ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงของสมอง3.หัวใจเต้นเร็ว เต้นแรง4.กระตุกที่ปลายมือ ปลายเท้า หรือหอบ น้ำลายฟูมปาก การรักษาตามอาการอย่าให้ขาดน้ำ ให้กินของที่เย็นขึ้นมาหน่อยเพื่อไม่ให้เจ็บปากน้อยลง ใช้เวลา3-5วัน อย่างช้าไม่เกิน7วันก็หาย แต่ในรายที่เป็นมากจะต้องรักษาด้วยยา ปัจจบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือการล้างมือบ่อยๆ เพราะเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายโดยการที่มือสัมผัสเชื้อแล้วเข้าปาก การล้างต้องล้างให้ถูกวิธี ล้างนานจบ1เพลง กินอาหารที่สุก ไม่ใช้ช้อนเดียวกันป้อนอาหารเด็กอนุบาล เมื่อเกิดป่วย3รายขึ้นไปควรเปิดห้องเรียน เพื่อทำความสะอาด" นพ.ยงกล่าว


จากหน่วยงาน : เดลินิวส์(16 ตค.60) เปิดดู 1011 view
วันที่ประกาศข่าว : 18 ตุลาคม 2560 เวลา 15:52 น.