ข่าวเพื่อมวลชน

พิมพ์

“อนุทิน” คาดฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ได้ก่อนตุลาคมนี้ ส่งวัคซีนฉีดพื้นที่ภูเก็ตเพิ่ม


     

         รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยโรงพยาบาลสนามปิยะเวทไอซียู 120 เตียงมาตรฐานสูง ช่วยรองรับผู้ป่วยโควิด 19 อาการรุนแรง ส่วนการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ผู้ที่ได้รับซิโนแวค 2 เข็ม กรมควบคุมโรคกำลังทำแผนการฉีด คาดเริ่มได้ก่อนตุลาคมนี้ สำหรับภูเก็ตแม้พบติดเชื้อเพิ่ม แต่ไม่กระทบเปิดประเทศ ระบบสาธารณสุขในพื้นที่ยังรองรับได้ เตรียมส่งวัคซีนสนับสนุนเพิ่ม

          วันนี้ (15 กันยายน 2564) ที่โรงพยาบาลปิยะเวท กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีมอบใบประกาศขอบคุณผู้บริจาค 13 ราย เพื่อสู้วิกฤตโควิด 19 เช่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), เครือเจริญโภคภัณฑ์, เจริญโภคภัณฑ์อาหาร, มูลนิธิบีเจซี, MBK, ไมเนอร์ฟู้ดส์ และกสิกรไทย เป็นต้น โดยมีแพทย์หญิงเจรียง จันทรกมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เครือโรงพยาบาลบางปะกอกและโรงพยาบาลปิยะเวทเข้าร่วม

          นายอนุทินกล่าวว่า โรงพยาบาลสนามปิยะเวทไอซียูเป็นโรงพยาบาลสนามระดับสูง มีความพร้อมทุกด้าน ทั้งการแพทย์ ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ ระบบช่วยชีวิต ระบบความปลอดภัยไม่ให้บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ เป็นมาตรฐานที่สากลยอมรับ ทั้งนี้ ภาคเอกชนมีส่วนร่วมอย่างมากทั้งการดูแลรักษาและการควบคุมโรคโควิด 19 เช่น การฉีดวัคซีน ที่ขณะนี้ทั่วประเทศฉีดไปแล้วกว่า 40 ล้านโดส จากศักยภาพการฉีดวัคซีนแต่ละวันเชื่อว่าภายในสิ้นปี 2564 จะฉีดวัคซีนได้มากกว่า 100 ล้านโดส ส่วนปี 2565 รัฐบาลได้เจรจาจัดหาวัคซีนเพื่อฉีดเป็นเข็มกระตุ้น ซึ่งการบริหารจัดการจะง่ายขึ้น เนื่องจากฉีดเพียงเข็มเดียว

          นายอนุทินกล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม ตั้งแต่มีนาคม-พฤษภาคม 2564 ประมาณ 3 ล้านคน จะฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรด่านหน้าที่ได้รับเข็ม 3 ไปแล้ว คาดว่าจะเหลือประมาณ 2 ล้านกว่าคน กรมควบคุมโรคกำลังเร่งวางแผนการฉีด โดยพิจารณาทั้งพื้นที่และกลุ่มเสี่ยง คาดว่าจะเริ่มได้ก่อนเดือนตุลาคม ซึ่งเร็วกว่าที่กำหนดไว้ ส่วนยาฟาวิพิราเวียร์มีเพียงพอ กำลังจะส่งไปสำรองไว้ที่จังหวัด จังหวัดละ 5 หมื่น - 1 แสนเม็ด ตามขนาดของจังหวัด เพื่อไม่ให้มีปัญหาการเบิกจ่าย

          “สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ที่จะฉีดในเด็กอายุ 12-18 ปี ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการวัคซีน รวมถึงการตรวจสอบของ อย.ไทยแล้ว จึงจัดหามาฉีดให้เด็กเพื่อให้กลับไปเรียน ใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุดส่วนวัคซีนอื่นๆ เช่น ซิโนแวค ที่จะฉีดได้ตั้งแต่อายุ 3 ปี ยังไม่ได้มาขึ้นทะเบียนเพิ่มเติม ขณะที่ซิโนฟาร์มอยู่ระหว่างอย.พิจารณาและขอเอกสารเพิ่มเติม” นายอนุทินกล่าว

          ส่วนกรณีภูเก็ตแซนบ็อกซ์ที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีรายงานการติดเชื้อในจังหวัดเพิ่มขึ้นนั้น จะส่งวัคซีนไปเพิ่มเติม รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงด้วย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น สถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้คาดการณ์และเตรียมการรองรับไว้แล้ว ยืนยันระบบสาธารณสุขในพื้นที่ ตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ จังหวัด รวมถึงกลุ่มจังหวัดในเขตสุขภาพ มีความพร้อม จึงไม่กระทบกับการเปิดประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ดำเนินการอย่างรอบคอบ ให้ทั้งประเทศมีความปลอดภัย

 ************************************* 15 กันยายน 2564


จากหน่วยงาน : กลุ่มภารกิจด้านข่าวและสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักสารนิเทศ เปิดดู 1242 view
วันที่ประกาศข่าว : 15 กันยายน 2564 เวลา 14:35 น.