ข่าวเพื่อมวลชน

พิมพ์

ดร.สาธิต ขับเคลื่อนระบบบริการปฐมภูมิยุควิถีชีวิตใหม่แนะ “สุขภาพดี เริ่มต้นที่บ้าน”


          รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขับเคลื่อนบริการปฐมภูมิยุควิถีชีวิตใหม่ สุขภาพดี เริ่มต้นที่บ้านเน้นการดูแลผู้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงป่วยรุนแรงและเสียชีวิต ดูแลสุขภาพจิตที่มีผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจ และการเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศเพื่อให้ระบบบริการไร้รอยต่อ   

          วันนี้ (10 กันยายน 2563) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ กทม. ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมวิชาการ โครงการพัฒนางานบริการปฐมภูมิในยุควิถีชีวิตใหม่ ปี 2563 จัดโดยโรงพยาบาลขอนแก่น ร่วมกับสมาคมเวชกรรมสังคมแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการพัฒนางานบริการปฐมภูมิในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงาน นวัตกรรมการพัฒนางานปฐมภูมิ โดยมีคณะกรรมการพัฒนางานปฐมภูมิ แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว พยาบาล นักวิชาการ และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลศูนย์/ โรงพยาบาลทั่วไป เข้าประชุม 250 คน พร้อมมอบรางวัลคนดีศรีปฐมภูมิ เป็นขวัญกำลังใจแก่แพทย์ พยาบาลวิชาชีพ นักวิชาการสาธารณสุข ที่เป็นต้นแบบการทำงานในพื้นที่ ทั้งเขตเมืองและชนบท จำนวน 12 คน 

          ดร.สาธิตกล่าวว่า ประเทศไทยมีระบบการดูแลสุขภาพที่เข้มแข็งครอบคลุมถึงระดับครอบครัว ตามนโยบายรัฐบาลในด้านการสร้างเสริมสุขภาพประชาชนตลอดช่วงวัย พัฒนาระบบบริการสุขภาพให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพ เน้นความเข้มแข็งของระบบบริการปฐมภูมิ ให้ประชาชนได้รับบริการใกล้บ้าน ทุกครอบครัวมีหมอประจำตัว 3 คน คือ หมอประจำบ้าน หมอสาธารณสุข และหมอครอบครัว ปรับระบบบริการให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตในยุค New Normal ใช้แนวคิด สุขภาพดี เริ่มต้นที่บ้าน โดยมีทีมสุขภาพปฐมภูมิร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) กว่า 1,040,000 คน ดูแลทุกครัวเรือนใกล้ชิด โดยทีมหมอครอบครัวใช้ระบบการปรึกษาทางไกล (Telemedicine) ปรึกษากับแพทย์ในโรงพยาบาล  รับยาที่ร้านยาใกล้บ้าน หรือมี อสม.ส่งยาให้ถึงบ้าน ประชาชนมีหน่วยบริการปฐมภูมิใกล้บ้าน เข้าถึงง่าย ประหยัดเวลา ลดรอคอย ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าเดินทางไปโรงพยาบาล 1,655 บาทต่อคน ลดรอคอยเหลือ 44 นาทีจากเดิมใช้เวลา 3 ชั่วโมง

          สำหรับการจัดบริการสุขภาพปฐมภูมิจะส่งเสริมให้ประชาชนและครอบครัวมีศักยภาพในการจัดการสุขภาพของตนเอง ป้องกันโรคที่ป้องกันได้เพื่อลดการเจ็บป่วย โดยมีประเด็นสำคัญในการขับเคลื่อนบริการปฐมภูมิ เน้นการดูแลผู้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต การดูแลสุขภาพจิตที่มีผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจ และการเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศเพื่อให้การดูแลสุขภาพมีความต่อเนื่อง ไร้รอยต่อ ลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน

**********************************  10 กันยายน 2563

***********************************


จากหน่วยงาน : กลุ่มภารกิจด้านข่าวและสื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักสารนิเทศ เปิดดู 628 view
วันที่ประกาศข่าว : 10 กันยายน 2563 เวลา 11:26 น.